Tutor‘s tip
Dynamic verb vs Stative verb
- ครูมินนี่
- 17.01.2566
- 272
Dynamic verb vs Stative verb
เมื่อพูดถึงประเภทของคำกริยาในภาษาอังกฤษ เราคงคุ้นเคยกับคำว่า finite verb และ infinite verb หรือ คำกริยาที่ต้องการกรรม
คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมนั้นเอง แต่นอกจากคำกริยาประเภทนี้แล้ว ในภาษาอังกฤษยังมีการแบ่งประเภทคำกริยาในรูปแบบอื่นอีก วันนี้เราจะไปเรียนรู้กัน
คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมนั้นเอง แต่นอกจากคำกริยาประเภทนี้แล้ว ในภาษาอังกฤษยังมีการแบ่งประเภทคำกริยาในรูปแบบอื่นอีก วันนี้เราจะไปเรียนรู้กัน
Dynamic verb
เป็นคำกริยาที่เป็นการกระทำ เช่น eat sleep walk go study learn คำกริยาพวกนี้จะผันตาม TENSES
เป็นคำกริยาที่เป็นการกระทำ เช่น eat sleep walk go study learn คำกริยาพวกนี้จะผันตาม TENSES
Stative verb
เป็นคำกริยาที่เป็นเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิด ประสาทสัมผัส เช่น feel think smell คำกริยาพวกนี้ใช้ได้เฉพาะ SIMPLE TENSES เท่านั้น
เป็นคำกริยาที่เป็นเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิด ประสาทสัมผัส เช่น feel think smell คำกริยาพวกนี้ใช้ได้เฉพาะ SIMPLE TENSES เท่านั้น
คำกริยาชนิดนี้มีทั้งหมด 6 ประเภท คือ
1. คำกริยาแสดงประสาทสัมผัสการรับรู้ เช่น see smell hear feel
2. คำกริยาแสดงสภาวะทางความคิด เช่น think remember know recognize understand
3. คำกริยาแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น own belong have
4. คำกริยาแสดงอารมณ์หรือความรู้สึก เช่น prefer enjoy mind love hate
5. คำกริยาแสดงการวัดหรือการประมาณค่า เช่น cost weigh
1. คำกริยาแสดงประสาทสัมผัสการรับรู้ เช่น see smell hear feel
2. คำกริยาแสดงสภาวะทางความคิด เช่น think remember know recognize understand
3. คำกริยาแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น own belong have
4. คำกริยาแสดงอารมณ์หรือความรู้สึก เช่น prefer enjoy mind love hate
5. คำกริยาแสดงการวัดหรือการประมาณค่า เช่น cost weigh
6. คำกริยาแสดงสภาวะอื่น ๆ เช่น be need owe want