การแบ่งลักษณะของการระเบิดจากปัจจัยต่างๆ
การระเบิด หมายถึง การเกิดแรงอัดอย่างสูง ทำให้เกิดอำนาจในการผลักดัน ซึ่งเกิดจากการขยายตัวของสารอย่างกะทันหัน หรือเกิดจากการเผาไหม้อย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดการระเบิดขึ้นแรงอัดจากการระเบิดจะรุนแรงและแผ่กระจายไปรอบจุดเกิดเหตุในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงไม่มีโอกาสหลบหนี จึงเกิดการทำลายทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมาก ภายหลังการระเบิดมักจะเกิดเพลิงไหม้ตามมา หากมีเชื้อเพลิงอยู่ในบริเวณนั้น
ลักษณะของการระเบิดแบ่งได้ 5 แบบ ดังนี้ คือ
การระเบิดที่เกิดจากวัตถุระเบิด เป็นการระเบิดที่เกิดจากการสลายตัวของสารที่เป็นของแข็งหรือของเหลว เช่น โปรแตสเซียมคลอเรต ไนโตรกลีเซอรีน ฯลฯ ออกมาเป็นก๊าซที่มีความร้อนสูงและขยายตัวมากขึ้นจนเกิดแรงผลักดัน มีอำนาจในการทำลาย
การระเบิดจากการทำปฏิกิริยาของไอเชื้อเพลิงกับอากาศ เป็นการระเบิดที่เกิดจากไอของสารที่เป็นเชื้อเพลิงปนอยู่กับอากาศในปริมาณที่เหมาะสม เช่น ไอของอะซิโตนกับอากาศ
การระเบิดจากผลฝุ่น ฝุ่นที่เกิดการระเบิดนั้นต้องมีขนาดเล็กมาก เช่น ถ่านหิน แป้งมัน น้ำตาบ ข้าวโพด โลหะ ฯลฯ การระเบิดของฝุ่นผงจะรุนแรงกว่าการระเบิดของก๊าซ หรือไอของน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะกลุ่มผงฝุ่นจำนวนมากเป็นเชื้อเพลิงที่มีความอัดตัวอยู่มาก ผงฝุ่นยิ่งเล็กเท่าไหร่ก็จะระเบิดได้รวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น ซึ่งต้องประกอบด้วยปัจจัย 5 สิ่งดังภาพ
การระเบิดจากการขยายตัวของสารและก๊าซภายใต้ความอัดดัน เช่น การระเบิดของก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม การระเบิดของหม้อไอน้ำ เป็นต้น
การระเบิดจากปฏิกิริยาฟิชชันและฟิวชัน เป็นพลังงานของมวลสารเมื่อเกิดการสลายตัว ซึ่งพลังงานที่เกิดขึ้นมีพลังงานมากกว่าพลังงานที่เกิดจากการระเบิดของปรมาณูถึง 3 เท่า เช่น การระเบิดของไฮโดนเจน การระเบิดของนิวตรอน ฯลฯ