ใช้พยัญชนะต้นของพยางค์แรกของคำเป็นตัวย่อ
1.1 ถ้าเป็นคำคำเดียวให้ใช้ตัวย่อตัวเดียว แม้ว่าคำนั้นจะมีหลายพยางค์ก็ตาม
ตัวอย่าง
5 วา = 5 ว.
จังหวัด = จ.
3.00 นาฬิกา = 3.00 น.
ศาสตราจารย์ = ศ.
1.2 ถ้าใช้ตัวย่อเพียงตัวเดียวแล้วทำให้เกิดความสับสน อาจใช้พยัญชนะต้นของคำถัดไปเป็นตัวย่อด้วยก็ได้
ตัวอย่าง
ทหารบก = ทบ.
ตำรวจ = ตร.
อัยการ = อก.
ถ้าเป็นคำสมาสให้ถือเป็นคำคำเดียว และใช้พยัญชนะต้นของพยางค์แรกเพียงตัวเดียว
ตัวอย่าง
มหาวิทยาลัย = ม.
วิทยาลัย = ว.
ถ้าเป็นคำประสม ใช้พยัญชนะต้นของแต่ละคำ
ตัวอย่าง
ชั่วโมง = ชม.
โรงเรียน = รร.
ถ้าคำประสมประกอบด้วยคำหลายคำ มีความยาวมาก อาจเลือกเฉพาะพยัญชนะต้นของคำที่เป็นใจความสำคัญ ทั้งนี้ไม่ควรเกิน 4 ตัว
ตัวอย่าง
คณะกรรมการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ = กปร.
สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ = สปช.
ถ้าใช้พยัญชนะต้นของแต่ละคำแล้วทำให้เกิดความสับสน ให้ใช้พยัญชนะต้นของพยางค์ถัดไปแทน
ตัวอย่าง
พระราชกำหนด = พ.ร.ก.
พระราชกฤษฎีกา = พ.ร.ฎ.
ถ้าพยางค์ที่มี ห เป็นอักษรนำ เช่น หญ หล ให้ใช้พยัญชนตัวที่ออกเสียงเป็นตัวย่อ
ตัวอย่าง
สารวัตรใหญ่ = สวญ.
ทางหลวง = ทล.
คำที่พยัญชนะต้นเป็นอักษรควบกล้ำหรืออักษรนำ ให้ใช้อักษรตัวหน้าตัวเดียว
ตัวอย่าง
ประกาศนียบัตร = ป.
ถนน = ถ.
เปรียญ = ป.
ตัวย่อไม่ควรใช้สระ ยกเว้นคำที่เคยใช้มาก่อนแล้ว
ตัวอย่าง
เมษายน = เม.ย.
มิถุนายน = มิ.ย.
เสนาธิการ = เสธ.
โทรศัพท์ = โทร.
ตัวย่อต้องมีจุดกำกับเสมอ ตัวย่อตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปให้จุดที่ตัวสุดท้ายเพียงจุดเดียว ยกเว้นตัวที่ใช้กันมาก่อนแล้ว
ตัวอย่าง
ตำบล = ต.
รองศาสตราจารย์ = รศ.
พุทธศักราช = พ.ศ.
ให้เว้นวรรคเล็กหน้าตัวย่อทุกแบบ
ตัวอย่าง
ประวัติของ อ.พระนครศรีอยุธยา
มีข่าวจาก กทม.ว่า
ให้เว้นวรรคระหว่างกลุ่มอักษรย่อ
ตัวอย่าง
ศ. นพ.
รศ. ดร.
การอ่านคำย่อ ต้องอ่านเต็ม
ตัวอย่าง
05.00 น. อ่านว่า ห้า-นา-ลิ-กา
อ.พระนครศรีอยุธยา อ่านว่า อำ-เพอ-พระ-นะ-คอน-สี-อะ-ยุด-ทะ-ยา
ยกเว้นกรณีที่คำเต็มนั้นยาวมากและคำย่อนั้นเป็นยอมรับกันทั่วไปแล้ว อาจอ่านตัวย่อเรียงตัวไปก็ได้
ตัวอย่าง
ก.พ. อ่านว่า กอ-พอ